คำถามเกี่ยวกับเครือข่ายทนายความ
คำถามที่ 1
เครือข่ายทนายความคืออะไร และมีวัตถุประสงค์เพื่ออะไร?
✅ คำตอบ:
เครือข่ายทนายความคือระบบรวมศูนย์ข้อมูลทนายความทั่วประเทศ ที่ก่อตั้งขึ้นโดย “ทนายภูวงษ์ โพธิ์ไทร” เพื่อให้ประชาชนสามารถเข้าถึงทนายความที่มีคุณภาพ ใกล้พื้นที่ของตนเองได้อย่างรวดเร็ว โปร่งใส และมั่นใจในมาตรฐานการให้บริการทางกฎหมาย โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อ
ช่วยประชาชนเข้าถึงความยุติธรรมอย่างเท่าเทียม
ส่งเสริมการทำงานร่วมกันของทนายทั่วประเทศ
พัฒนาเทคโนโลยีและ AI ผู้ช่วยทางกฎหมาย “นิติ” เพื่อสนับสนุนการทำงานของทนายทุกคนในเครือข่าย
📌 สรุป: เครือข่ายทนายความคือ “ระบบกลางของทนายทั่วประเทศ” ที่ประชาชนสามารถเข้าถึงได้ง่ายและปลอดภัย
คำถามที่ 2
ทนายในเครือข่ายทนายความแตกต่างจากทนายทั่วไปอย่างไร?
✅ คำตอบ:
ทนายในเครือข่ายทุกคนผ่านการตรวจสอบข้อมูลจริง เช่น ใบอนุญาตทนาย เลขสมาชิกสภาทนายความ และสถานที่ทำงานจริง พร้อมระบบประเมินคุณภาพการให้บริการจากลูกค้าแต่ละพื้นที่
📌 สรุป: ทนายในเครือข่ายคือทนายมืออาชีพ มีตัวตนจริง มีการตรวจสอบ และอยู่ภายใต้มาตรฐานเดียวกันทั่วประเทศ
คำถามที่ 3
ประชาชนจะได้รับประโยชน์อะไรจากการใช้บริการผ่านเครือข่ายทนายความ?
✅ คำตอบ:
ได้รับคำปรึกษาจากทนายใกล้พื้นที่จริง
มีระบบคัดกรองและแนะนำทนายตามประเภทคดี (แพ่ง, อาญา, ครอบครัว, ที่ดิน ฯลฯ)
สามารถขอใบเสนอราคาออนไลน์ และเปรียบเทียบค่าทนายได้อย่างโปร่งใส
มีบริการติดตามคดีและแจ้งเตือนวันนัดผ่านระบบ AI “นิติ”
เข้าถึงทนายสายด่วน 24 ชั่วโมง
📌 สรุป: ใช้บริการเครือข่ายเดียว ได้ครบทั้งความสะดวก ความปลอดภัย และความมั่นใจ
คำถามที่ 4
ระบบ “นิติ ผู้ช่วยทนายความ” มีบทบาทอย่างไรในเครือข่ายทนายความ?
✅ คำตอบ:
“นิติ” เป็น AI ผู้ช่วยทนายความที่พัฒนาโดยเครือข่าย เพื่อช่วยอำนวยความสะดวกทั้งฝั่งทนายและประชาชน เช่น
แนะนำทนายในพื้นที่
วิเคราะห์คดีเบื้องต้น
เตรียมเอกสารและแบบฟอร์มทางกฎหมาย
แจ้งเตือนนัดหมายศาล
ส่งต่อข้อมูลให้ทนายที่เหมาะสมในเครือข่าย
📌 สรุป: “นิติ” คือผู้ช่วยดิจิทัลที่ทำให้การปรึกษาทนายเป็นเรื่องง่ายและรวดเร็ว
คำถามที่ 5
ทำไมควรเลือกใช้บริการ “เครือข่ายทนายความ” มากกว่าการหาทนายด้วยตนเอง?
✅ คำตอบ:
เพราะเครือข่ายทนายความมีระบบกลางตรวจสอบทนายทุกคน มีทีมสนับสนุนและศูนย์ช่วยเหลือกลางตลอด 24 ชั่วโมง และสามารถเชื่อมโยงข้อมูลคดีให้ทนายในพื้นที่เข้าช่วยได้ทันทีโดยไม่ต้องเสียเวลา
📌 สรุป: เครือข่ายทนายความ = ความมั่นใจ ความปลอดภัย และการดูแลครบวงจรในทุกคดี
คำถามที่ปรึกษาทนายความบ่อย
เกี่ยวกับ ทนายธีรภัทร จงแจ่ม
คำถามที่ 6
ทนายธีรภัทร จงแจ่ม เป็นใคร และมีความเชี่ยวชาญด้านใด?
✅ คำตอบ:
ทนายธีรภัทร จงแจ่ม เป็นสมาชิกเครือข่ายทนายความจังหวัดพิจิตร ที่มีความเชี่ยวชาญในคดีแพ่ง อาญา ครอบครัว มรดก และคดีผู้บริโภค โดยเน้นให้คำปรึกษาเชิงลึก เข้าใจปัญหาของลูกความอย่างรอบด้าน และมุ่งเน้นการหาทางออกที่เหมาะสมที่สุดตามกฎหมาย
📌 สรุป: ทนายธีรภัทรคือทนายมืออาชีพที่พร้อมช่วยเหลือประชาชนในจังหวัดพิจิตรและพื้นที่ใกล้เคียง
คำถามที่ 7
ทำไมจึงควรเลือกใช้บริการกับทนายธีรภัทร จงแจ่ม?
✅ คำตอบ:
เพราะทนายธีรภัทรเป็นสมาชิกใน “เครือข่ายทนายความจังหวัดพิจิตร” ที่ได้รับการตรวจสอบข้อมูลจริงจากศูนย์กลางเครือข่าย มีระบบติดตามคดี การแจ้งเตือนนัดศาล และสามารถติดต่อโดยตรงได้ตลอดเวลา
📌 สรุป: มั่นใจได้ในมาตรฐานและความเป็นมืออาชีพทุกขั้นตอนของคดี
คำถามที่ 8
หากต้องการปรึกษาคดี ต้องเตรียมข้อมูลอะไรบ้างก่อนติดต่อทนายธีรภัทร?
✅ คำตอบ:
ควรเตรียมข้อมูลพื้นฐาน เช่น
ประเภทคดี (แพ่ง / อาญา / ครอบครัว ฯลฯ)
เอกสารหลักฐาน เช่น สัญญา หนังสือแจ้ง ความตกลง หรือหมายศาล
รายละเอียดวันเวลาเหตุการณ์ และคู่กรณี
📌 สรุป: ยิ่งมีข้อมูลครบ ทนายธีรภัทรจะสามารถวิเคราะห์คดีและให้คำแนะนำที่แม่นยำยิ่งขึ้น
คำถามที่ 9
สามารถติดต่อทนายธีรภัทรได้อย่างไร?
✅ คำตอบ:
📞 คอลเซ็นเตอร์: 02-114-7521
📱 มือถือ: 083-166-5803
💬 WhatsApp: +66831665803
✉️ อีเมล: Trerapat@thailandlawyer.info
🌐 เว็บไซต์: https://www.ทนายธีรภัทร.com
📍 ที่อยู่: 61 หมู่ 6 ตำบลเนินปอ อำเภอสามง่าม จังหวัดพิจิตร 66140
📌 สรุป: ติดต่อได้หลายช่องทาง ทั้งออนไลน์และออฟไลน์ สะดวกทุกที่ทั่วประเทศ
คำถามที่ 10
เครือข่ายทนายความจังหวัดพิจิตรช่วยประชาชนอย่างไร?
✅ คำตอบ:
เครือข่ายทนายความจังหวัดพิจิตรเป็นส่วนหนึ่งของ “เครือข่ายทนายความทั่วประเทศ” โดยมีเป้าหมายให้ประชาชนเข้าถึงทนายใกล้บ้านได้ง่ายขึ้น ปรึกษาฟรีเบื้องต้น พร้อมระบบติดตามคดีผ่าน AI “นิติ ผู้ช่วยทนายภูวงษ์”
📌 สรุป: ทนายธีรภัทรคือหนึ่งในทีมงานที่ขับเคลื่อนความยุติธรรมให้เข้าถึงประชาชนจริง
เกี่ยวกับ ทนายภูวงษ์ โพธิ์ไทร
คำถามที่ 11
ทนายภูวงษ์ โพธิ์ไทร เป็นใคร และมีบทบาทสำคัญอย่างไรในเครือข่ายทนายความ?
✅ คำตอบ:
ทนายภูวงษ์ โพธิ์ไทร เป็นทนายความผู้ก่อตั้งและประธานเครือข่ายทนายความประเทศไทย มีวิสัยทัศน์ในการรวมทนายทั่วประเทศให้ทำงานร่วมกันภายใต้มาตรฐานเดียวกัน เพื่อให้ประชาชนเข้าถึงบริการทางกฎหมายได้ง่าย โปร่งใส และเท่าเทียม
📌 สรุป: ทนายภูวงษ์คือผู้นำในการสร้างระบบ “เครือข่ายทนายความทั่วประเทศ” เพื่อช่วยประชาชนเข้าถึงความยุติธรรมจริง
คำถามที่ 12
เครือข่ายทนายความที่ทนายภูวงษ์ก่อตั้งมีขอบเขตการทำงานอย่างไร?
✅ คำตอบ:
เครือข่ายครอบคลุม 77 จังหวัดทั่วประเทศ มีเว็บไซต์และเพจจังหวัด–อำเภอมากกว่า 1,000 แห่ง รวมถึงระบบ “ทนายออนไลน์” เพื่อให้ประชาชนสามารถปรึกษาคดีผ่านระบบดิจิทัลได้โดยตรงกับทนายใกล้พื้นที่ พร้อมระบบ AI ผู้ช่วย “นิติ” ที่ช่วยเชื่อมต่อข้อมูลอัตโนมัติ
📌 สรุป: เครือข่ายนี้ทำงานทั้งออนไลน์และออฟไลน์ ครอบคลุมทุกจังหวัดและทุกประเภทคดี
คำถามที่ 13
ทนายภูวงษ์มีแนวคิดการบริหารเครือข่ายทนายความอย่างไร?
✅ คำตอบ:
แนวคิดหลักคือ “รวมพลังทนายเพื่อประชาชน” — สร้างระบบกลางที่ให้ทนายทุกคนได้ประโยชน์ร่วมกัน มีฐานข้อมูลคดี ระบบสมาชิก และศูนย์ช่วยเหลือประชาชนออนไลน์ โดยเน้นการใช้เทคโนโลยีและ AI เพื่อช่วยให้ทนายทำงานได้ง่ายขึ้นและมีรายได้อย่างยั่งยืน
📌 สรุป: บริหารด้วยหัวใจทนาย และเทคโนโลยีสมัยใหม่เพื่อความยุติธรรมทั่วถึง
คำถามที่ 14
ผลงานหรือโครงการสำคัญของทนายภูวงษ์ในปัจจุบันคืออะไรบ้าง?
สร้างระบบเว็บไซต์เครือข่ายหลัก เช่น
https://www.เครือข่ายทนายความ.com
พัฒนา AI ผู้ช่วยทนายชื่อ “นิติ” เพื่อช่วยประชาชนและทนายทั่วประเทศ
จัดตั้งระบบปฏิทินนัดศาลกลาง Google Calendar สำหรับทนายทั่วประเทศ
พัฒนาโครงการ “ทนายใกล้ศาล” และ “ทนายใกล้คุณ” เพื่อให้บริการประชาชนทันเวลา
📌 สรุป: ทนายภูวงษ์พัฒนาเครือข่ายทนายความให้เป็นระบบดิจิทัลครบวงจร
คำถามที่ 15
ประชาชนทั่วไปสามารถติดต่อหรือเข้าร่วมโครงการกับทนายภูวงษ์ได้อย่างไร?
✅ คำตอบ:
ประชาชนสามารถปรึกษาทนายภูวงษ์หรือเข้าร่วมเครือข่ายได้หลายช่องทาง ได้แก่
📞 โทร. 02-114-7521 หรือ 081-803-4097
💬 Line ID: 0818034097
✉️ อีเมล: Contact@thailandlawyer.info
🌐 เว็บไซต์: www.ทนายภูวงษ์.com
📍 สำนักงานใหญ่: เลขที่ 22 อาคารเค ซอยสุขุมวิท 35 คลองตันเหนือ เขตวัฒนา กรุงเทพมหานคร 10110
📌 สรุป: ติดต่อได้โดยตรงทุกวัน มีทีมทนายพร้อมให้คำปรึกษาในทุกจังหวัดทั่วประเทศ
เกี่ยวกับการสมัครเป็นสมาชิกเครือข่ายทนายความประเทศไทย
คำถามที่ 16
ทนายความที่สนใจร่วมงานกับเครือข่ายทนายความ ต้องเริ่มต้นอย่างไร?
✅ คำตอบ:
ทนายสามารถสมัครเข้าร่วมเครือข่ายได้ผ่านระบบออนไลน์ที่เว็บไซต์
🌐 www.เครือข่ายทนายความ.com
โดยกรอกแบบฟอร์มสมาชิก พร้อมแนบสำเนาใบอนุญาตทนายความ และข้อมูลสำนักงาน เพื่อให้ทีมงานตรวจสอบและบันทึกเข้าระบบฐานข้อมูลกลาง
📌 สรุป: สมัครง่าย ตรวจสอบเร็ว พร้อมเริ่มงานร่วมกับเครือข่ายได้ทันที
คำถามที่ 17
เครือข่ายทนายความเปิดรับสมาชิกประเภทใดบ้าง?
✅ คำตอบ:
ปัจจุบันเครือข่ายเปิดรับสมาชิก 3 ประเภท ได้แก่
1️⃣ สมาชิกพันธมิตร (Partner Lawyer) จำกัดจังหวัดละ 2 คน ทำหน้าที่ประสานงานหลัก ดูแลเพจ/เว็บไซต์ประจำจังหวัด และรับคดีโดยตรงจากศูนย์กลาง
2️⃣ สมาชิกทนายใกล้คุณ (Local Lawyer) เปิดรับไม่จำกัดจำนวน เหมาะสำหรับทนายในพื้นที่ที่ต้องการรับคดีใกล้บ้าน มีระบบแจ้งงานอัตโนมัติผ่าน “นิติ AI”
3️⃣ สมาชิกทนายใกล้ศาล (Court Lawyer) เปิดรับไม่จำกัดจำนวน สำหรับทนายที่มีใบอนุญาต 1–3 ปี ต้องการพัฒนาประสบการณ์และรับคดีในศาลโดยตรง
📌 สรุป: เลือกประเภทสมาชิกได้ตามความพร้อมและความเชี่ยวชาญของแต่ละทนาย
คำถามที่ 18
สิทธิประโยชน์ของการเป็นสมาชิกเครือข่ายทนายความคืออะไร?
✅ คำตอบ:
ได้รับนามบัตรสมาชิกเครือข่ายและสิทธิ์เข้าร่วมระบบฐานข้อมูลกลาง
มีเว็บไซต์ส่วนตัวและเพจจังหวัดพร้อมใช้งาน (เฉพาะสมาชิกพันธมิตร)
ได้รับการโปรโมตผ่านระบบ Smart Post และโฆษณา Facebook/Google
ใช้ระบบ AI “นิติ” ช่วยประสานงานและรับงานคดี
เข้าร่วมอบรมพิเศษและระบบปฏิทินนัดศาล Google Calendar
📌 สรุป: เป็นมากกว่าการรวมกลุ่ม แต่คือการเติบโตพร้อมกันทั้งระบบ
คำถามที่ 19
สมาชิกสามารถทำงานอิสระหรือรับคดีจากแหล่งอื่นได้หรือไม่?
✅ คำตอบ:
ได้แน่นอน เพราะเครือข่ายเปิดโอกาสให้ทนายทุกคนทำงานอิสระได้เต็มที่ เพียงแต่คดีที่ได้รับผ่านระบบกลางจะต้องปฏิบัติตามมาตรฐานเดียวกัน เช่น การรายงานสถานะคดี และการติดต่อประสานกับลูกความอย่างมืออาชีพ
📌 สรุป: ร่วมเครือข่ายได้โดยไม่จำกัดอิสระในการทำงาน
คำถามที่ 20
หากต้องการสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการสมัครสมาชิก ต้องติดต่อที่ไหน?
✅ คำตอบ:
📞 โทร. 081-803-4097
💬 Line ID: @lawyernetwork
✉️ อีเมล: contact@thailandlawyer.info
🌐 เว็บไซต์: www.เครือข่ายทนายความ.com
📌 สรุป: ทีมงานศูนย์กลางและ AI “นิติ” พร้อมให้คำแนะนำและช่วยดำเนินการสมัครตลอด 24 ชั่วโมง
คำถามที่ปรึกษาทนายความบ่อย
คำถามที่ 21: ถ้ามีคนยืมเงินแล้วไม่คืน ต้องทำอย่างไร
✅ คำตอบ:
เริ่มต้นให้ทำ “หนังสือทวงถาม” หรือ “หนังสือบอกกล่าวให้ชำระหนี้” เพื่อเป็นหลักฐานการทวงถามอย่างเป็นทางการ หากยังไม่ชำระ สามารถฟ้องคดีต่อศาลได้ โดยแนบหลักฐาน เช่น
ข้อความแชตที่ยืนยันการยืมเงิน
สลิปการโอนเงิน หรือหลักฐานบัญชีธนาคาร
พยานบุคคลที่รับรู้การยืม
📌 ข้อแนะนำ: หากไม่มีหลักฐานเป็นลายลักษณ์อักษร แต่มีพยานแวดล้อมหรือหลักฐานดิจิทัล (เช่น แชต/โอนผ่านแอปธนาคาร) ศาลสามารถรับฟังเป็นพยานได้ตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ พ.ศ. 2544
คำถามที่ 22: สามี/ภรรยา มีกิ๊ก หรือชู้ สามารถฟ้องได้หรือไม่?
✅ คำตอบ:
สามารถฟ้องได้ครับ โดยกฎหมายให้สิทธิฝ่ายที่ถูกละเมิดฟ้องเรียกค่าเสียหายจาก “ชู้” ได้ตาม ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1523 และยังสามารถใช้เหตุนี้เป็นมูลเหตุฟ้องหย่าได้ตาม มาตรา 1516 (1)
📌 ข้อแนะนำ: ควรเก็บหลักฐาน เช่น ภาพถ่าย ข้อความแชต หรือคำรับสารภาพ เพื่อใช้ประกอบในชั้นศาล
คำถามที่ 23: ถูกรถชน ควรทำอย่างไรและฟ้องใคร?
✅ คำตอบ:
ควรแจ้งตำรวจทันทีและบันทึกเหตุในที่เกิดเหตุ ถ่ายรูปป้ายทะเบียนรถและบาดแผลไว้เป็นหลักฐาน จากนั้นนำใบรับรองแพทย์ ใบแจ้งความ และเอกสารประกันภัยไปยื่นเรียกร้องค่าสินไหมกับบริษัทประกันของคู่กรณี
📌 ข้อแนะนำ: หากคู่กรณีไม่มีประกันภัย สามารถฟ้องเรียกค่าเสียหายทางแพ่งจากเจ้าของรถและผู้ขับขี่ได้โดยตรง
คำถามที่ 24: อยากฟ้องหย่า ต้องเริ่มต้นอย่างไร?
✅ คำตอบ:
ต้องมีเหตุหย่าตามที่กฎหมายกำหนด เช่น ผิดชู้ ละทิ้งร้าง หรือไม่อุปการะเลี้ยงดู คู่สมรสฝ่ายที่ต้องการหย่าสามารถยื่นฟ้องได้ที่ศาลจังหวัดหรือศาลเยาวชนและครอบครัวในพื้นที่ที่อีกฝ่ายอยู่
📌 เอกสารสำคัญที่ต้องเตรียม:
สำเนาทะเบียนสมรส
สำเนาทะเบียนบ้าน
หลักฐานเหตุหย่า (เช่น ภาพแชต หรือใบแจ้งความ)
คำถามที่ 25: ถ้าพ่อแม่เสียชีวิต อยากจัดการมรดกต้องทำอย่างไร?
✅ คำตอบ:
ให้ยื่นคำร้องขอเป็น “ผู้จัดการมรดก” ต่อศาล โดยแนบเอกสาร เช่น
ใบมรณบัตรของผู้ตาย
ทะเบียนบ้านของผู้ตายและทายาท
หลักฐานทรัพย์สิน เช่น โฉนดที่ดิน สมุดบัญชี
📌 ข้อแนะนำ: หากมีทายาทหลายคน ศาลจะกำหนดให้เรียกทุกคนมาร่วมพิจารณา เพื่อแต่งตั้งผู้จัดการมรดกเพียงคนเดียวหรือร่วมกัน